ขอนแก่น (ชมคลิป) ผักแพง “กระเพรา-แมงลัก” ราคาพุ่งจาก 20 บาท เป็น 100 บาท ต่อกิโลกรัม


ผักสดหลายชนิดในตลาดสดที่จังหวัดขอนแก่น ราคายังสูงต่อเนื่อง หลังจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ขอนแก่นและจังหวัดภาคอีสานที่เป็นพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลทำให้ผักขาดตลาด แม่ค้าเผยผักบางชนิด เช่น “กระเพรา-แมงลัก” จากเดิมขายกิโลกรัมละ 20 บาท ปัจจุบันราคาพุ่งถึง กิโลกรัมละ 100 – 150 บาท คาดต้องแบกรับสถานการณ์ไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาจำหน่ายผักสดภายในตลาดสดเหล่านาดี หรือ ตลาดโรงอวน ริมถนนเหล่านาดี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเริ่มคลี่คลายลง และสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสานเริ่มทรงตัว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลทำให้ผักสดแต่ละชนิดที่มีราคาสูงในช่วงที่เกิดน้ำท่วม เริ่มปรับลดราคาลง

นางสาวยุพิน คล้ายโพธิ์ทอง อายุ 40 ปี แม่ค้าจำหน่ายผักสด ร้าน “บิวผักสด” บอกว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆ จะดีขึ้น ในแง่ที่ว่าระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในแง่ของสภาพพื้นที่เพาะปลูกพืชผัก ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากแปลงปลูกผักในแต่ละพื้นที่ยังไม่สามารถปลูกพืชผักได้ จึงทำให้ราคาผักแต่ละชนิดยังสูงอย่างต่อเนื่อง ร้านของตนเองที่รับผักสดมาขายต่อต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่กำไรที่ได้กลับน้อยลง โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน เช่น ใบกระเพรา จากเดิมซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 5-10 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคา 100 บาท ใบแมงลัก จากเดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ปัจจุบันซื้อในราคา 150-200 บาท ต้นหอม จากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคา 170 บาท กะหล่ำปี จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคา 105 บาท ผักบุ้ง จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 5-10 บาท ปัจจุบันซื้อในราคา 50 บาท และมะเขือเปาะ จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคา 400 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้พื้นที่เพาะปลูกในขอนแก่น ยังไม่สามารถเพาะปลุกได้ ต้องมีการนำผักจากต่างจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ และอุดรธานี มาจำหน่าย ซึ่งก็ต้องบวกค่าต้นทุนจากการขนส่งด้วย

นางสาวยุพิน กล่าวอีกว่า เมื่อราคาผัดสดแทบทุกชนิดมีราคาสูงขึ้น ทางร้านจึงต้องใช้วิธีการปรับลดจำนวนของผักที่นำมาแบ่งขายเป็นมัดลง ได้กำไรมัดละ 5 – บาท แล้วแต่ชนิดของผัก เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างราคารับซื้อมา และราคาที่ขายไปให้ลูกค้า ซึ่งทางร้านจะบอกลูกค้าก่อนว่า ผักบางชนิดมีราคาแพง หากต้องการซื้อก็จะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งตนเองคาดว่า ราคาผักจะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน จึงจะเริ่มลดราคาลง เนื่องจากเกษตรกรผู้เพาะปลูกผัก สามารถกลับมาเพาะปลูกได้หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย